NGX ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกระทรวงการคลังมาเลเซีย (ซึ่งก่อตั้งเป็นบริษัทตามกฎหมาย) เป็นแนวหน้าในการพัฒนาพรมแดนระหว่างมาเลเซียและไทยที่เมืองบูกิตกายูฮีตัม รัฐเกอดะฮ์ ในฐานะผู้พัฒนาหลักของเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนเดลาปัน (Delapan SBEZ) เรามีบทบาทสำคัญในการยกระดับตำแหน่งของมาเลเซียในฐานะประตูยุทธศาสตร์สำหรับการค้าชายแดนระหว่างมาเลเซียและไทย
วิสัยทัศน์ของเราคือการเสริมสร้างสถานะของมาเลเซียในฐานะศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและดิจิทัลแบบบูรณาการและคล่องตัวซึ่งเหมาะสำหรับอนาคต
โครงการนี้ ซึ่งประกอบด้วย Delapan East และ Delapan West จะครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 4,400 เอเคอร์ของที่ดินเปล่าพร้อมศูนย์กลางอุตสาหกรรมและการค้าขายที่ทันสมัย ซึ่งออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและอสังหาริมทรัพย์
นอกเหนือจากการเป็นศูนย์รวมที่ดึงดูดอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศแล้ว เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Delapan ให้เป็นพื้นที่การค้าขายและการผลิตที่มีสถานะเป็นเขตปลอดอากร
Delapan นำเสนอโอกาสการลงทุนที่คุ้มค่า ที่จะขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคเหนือและส่วนอื่น ๆ ของประเทศ ตำแหน่งยุทธศาสตร์ที่กิโลเมตรที่ 0.8 ของ North South Expressway และที่ทางแยกของ Asia Highway Network 2 มาพร้อมกับข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนใครให้แก่พันธมิตรของเรา โดยนำเสนอเครือข่ายโลจิสติกส์และการเชื่อมต่อห่วงโซ่อุปทานที่ดำเนินการได้อย่างรวดเร็วที่สุด
BKH-ICD นำเสนอท่าเรือบกแห่งใหม่ เพื่อช่วยกระตุ้นการค้าระหว่างไทยกับมาเลเซีย
หาดใหญ่ ประเทศไทย -
Media OutReach - 1 มิถุนายน 2023 - ณ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา BKH-ICD พร้อมด้วยบริษัทเดินเรือชั้นนำและผู้ให้บริการขนส่งรายใหญ่จากภาคใต้ของประเทศไทย จัดงานนำเสนอและแจ้งข้อมูลความคืบหน้าเกี่ยวกับท่าเรือบกแห่งใหม่ที่กำลังจะเปิดให้บริการที่เมืองบูกิตกายูฮีตัม รัฐเกอดะฮ์ งานนี้มีบุคคนสำคัญเข้าร่วม ได้แก่ นายรัษฎา จิวาลัย กงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง นายเผดิมเดช มั่งคั่ง นายด่านศุลกากรสะเดา และ ดร.ไพโรจน์ ชัยจิรติกุล รองประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา
ท่าเรือบกแห่งใหม่นี้จะเชื่อมและตั้งอยู่ติดกับศูนย์ตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร ศูนย์กักกันและรักษาความปลอดภัย (ICQS) ของเมืองบูกิตกายูฮีตัม โดยคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการลดความยุ่งยากและช่วยพัฒนาการค้าข้ามพรมแดน การพัฒนาดังกล่าวเป็นการร่วมทุนเชิงกลยุทธ์กับ One Northern Hub Sdn. Bhd. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ PKT Logistics Group Sdn. Bhd. และ Northern Gateway Sdn. Bhd. ("NGX") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่กระทรวงการคลังมาเลเซียถือหุ้นทั้งหมดเพื่อพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนเดลาปัน (SBEZ) เมืองบูกิตกายูฮีตัม รัฐเกอดะฮ์
ท่าเรือบก BKH-ICD จะมีการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ประกอบไปด้วยระบบปฏิบัติการของท่าเทียบเรือ ระบบควบคุมประตู ระบบรักษาความปลอดภัย และบริการสำหรับการดำเนินงานของรถคานเคลื่อนที่ยกตู้สินค้า สามารถรองรับตู้คอนเทนเนอร์ที่ความจุถึง 240,000 ฟุต หรือ 12,000 TEU ต่อปี
Dato' Seri (Dr.) Michael Tio ประธานกลุ่มเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการของ PKT Logistics Group Sdn Bhd กล่าวว่า "เราเล็งเห็นว่า BKH-ICD จะสร้างประโยชน์มหาศาลให้กับธุรกิจขนส่งสินค้า ธุรกิจส่งออก และบริษัทเดินเรือทั่วภูมิภาค นี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเนื่องจากการค้าชายแดนระหว่างมาเลเซียและไทยพุ่งขึ้นเป็น 7.9 หมื่นล้านริงกิตมาเลเซียในปี 2564 และคาดว่าจะเติบโต 6% ต่อปี จากการสร้างประโยชน์ทางธุรกิจการค้าขนาดใหญ่นี้ BKH-ICD จึงตั้งเป้าที่จะสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมในเมืองบูกิตกายูฮีตัมและพื้นที่โดยรอบผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนกับ NGX"
"BKH-ICD ครอบคลุมพื้นที่ 50 เอเคอร์ซึ่งมีมูลค่าการพัฒนาประมาณ 200 ล้านริงกิตมาเลเซีย เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่ยั่งยืน ประกอบด้วยโครงการทั้งหมด 4 ส่วน ได้แก่ ท่าเรือบก BKH-ICD (เฟส 1) และคลังสินค้า Blackwood Forest (เฟส 2) ซึ่งทั้งสองเฟสอยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 โครงการก่อสร้าง Blackwood Complex (เฟส 3) จะเริ่มดำเนินการในเร็ว ๆ นี้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ขณะที่ศูนย์กลางโลจิสติกส์ได้รับการออกแบบด้วยระบบนิเวศล้ำสมัยที่จะส่งเสริมการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน และยังทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางให้กับคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่แวะเปลี่ยนพาหนะในการเดินทาง สิ่งดังกล่าวสอดคล้องกับพันธกิจของ PKT Logistics Group อย่างเห็นได้ชัดที่ตั้งใจจะพัฒนาศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่ยั่งยืนพร้อมคลังสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการมีส่วนร่วมกับชุมชนรอบตัว"
"เรามีการรองรับท่าเรือบกด้วยคลังสินค้า Blackwood Forest ที่มีพื้นที่จัดเก็บขนาด 215,000 ตารางฟุต ควบคู่ไปกับการเปิดให้บริการห้องรับรองที่ออกแบบอย่างมีรสนิยมและสะดวกสบายสำหรับผู้ทำธุรกิจการเดินเรือ ธุรกิจขนส่งสินค้า และอื่น ๆ"
Tio กล่าวเพิ่มเติมว่า "Blackwood Complex จะมีบริการด้านสถาบันการศึกษา ร้านค้าปลีก พื้นที่ทำงานร่วมกัน โรงยิมและห้องรับรอง สำนักงาน เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และที่จอดรถจำนวนหลายชั้น นอกจากให้บริการแก่ผู้ใช้ท่าเรือบกแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดพักเชิงยุทธศาสตร์สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางข้ามพรมแดน โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์พักผ่อนและนันทนาการที่สะดวกสบาย พร้อมศูนย์อาหาร ร้านสะดวกซื้อ คาเฟ่ และอื่น ๆ"
ในขณะเดียวกัน Razwin Sulairee ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ NGX กล่าวว่าการเป็นหุ้นส่วนกับ PKT Logistics ที่ Delapan มีความได้เปรียบด้านการแข่งขันอย่างมากในการลดความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อนักลงทุนทั้งในปัจจุบันและอนาคต
"การพัฒนานี้เกิดจากความถดถอยทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นหลังจากการระบาดของโรคโควิด-19 และการเสื่อมถอยทางการเมืองมากมายทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านการดำเนินงานและสถานการณ์เหล่านี้ทำให้เรามีข้อได้เปรียบที่ชัดเจนบางประการในการสร้างโซลูชันที่มีคุณค่าสำหรับพันธมิตรระดับโลกและระดับภูมิภาคของเรา"
"ธุรกิจต่าง ๆ ที่ดำเนินการที่เขตเศรษฐกิจพิเศษเดลาปันจะได้รับประโยชน์มากมายในการบรรเทาปัญหาห่วงโซ่อุปทานและโลจิสติกส์ที่เกิดจากการชะงักงันต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อภูมิภาคทางทะเล เช่น ทะเลจีนใต้ ในกรณีนี้ มูลค่าการค้าโลกต่อปีประมาณ 3.37 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐอาจได้รับผลกระทบ"
"ดังนั้นเราจึงนำเสนอเดลาปันเป็นทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์สำหรับความท้าทายด้านซัพพลายเชนที่พันธมิตรของเราต้องเผชิญ ซึ่งเป็นความท้าทายที่จัดการได้ยาก ท่าเรือบกของเราตั้งอยู่ที่ กม. 0.8 ของ North South Expressway ที่ทางแยกของ Asia Highway Network 2 ซึ่งจะเชื่อมคุณกับมาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย อินโดจีน จีน และประเทศอื่น ๆ ได้โดยตรง
"สิ่งนี้ทำให้เดลาปันเป็นโซลูชันที่เร็วที่สุดสำหรับการเข้าถึงตลาดโลกได้อย่างง่ายดายและไร้รอยต่อผ่านการขนส่งทางถนนและเครือข่ายภาคพื้นดิน โดยไม่มีความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นอันเป็นผลมาจากสถานการณ์ในทะเลจีนใต้"
เขากล่าวว่าธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ไม่อาจสูญเสียจากสิ่งที่คาดเดาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว "ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นที่จะจัดหาทางเลือกที่มั่นคงให้กับพันธมิตรของเราเพื่อบรรเทาความสูญเสียจากปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกเขาให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
ติดต่อเรา :
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ:
PKT Logistics Group Sdn Bhd
Corinne Chieng
หัวหน้าฝ่ายกิจการองค์กรและกลยุทธ์
มือถือ: +60-192223189
อีเมล: [email protected]
Northern Gateway Sdn Bhd
Amy Fadzlan
หัวหน้าผู้เผยแพร่นวัตกรรมขององค์กร
โทร: +60-386852502/03
มือถือ: +60-162054771
อีเมล: [email protected]
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับฝ่ายขาย:
Victor Ch'ng โทร +601-2438 4797 หรืออีเมล [email protected]
ท่าเรือบกแห่งใหม่นี้จะเชื่อมและตั้งอยู่ติดกับศูนย์ตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร ศูนย์กักกันและรักษาความปลอดภัย (ICQS) ของเมืองบูกิตกายูฮีตัม โดยคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการลดความยุ่งยากและช่วยพัฒนาการค้าข้ามพรมแดน การพัฒนาดังกล่าวเป็นการร่วมทุนเชิงกลยุทธ์กับ One Northern Hub Sdn. Bhd. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ PKT Logistics Group Sdn. Bhd. และ Northern Gateway Sdn. Bhd. ("NGX") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่กระทรวงการคลังมาเลเซียถือหุ้นทั้งหมดเพื่อพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนเดลาปัน (SBEZ) เมืองบูกิตกายูฮีตัม รัฐเกอดะฮ์
ท่าเรือบก BKH-ICD จะมีการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ประกอบไปด้วยระบบปฏิบัติการของท่าเทียบเรือ ระบบควบคุมประตู ระบบรักษาความปลอดภัย และบริการสำหรับการดำเนินงานของรถคานเคลื่อนที่ยกตู้สินค้า สามารถรองรับตู้คอนเทนเนอร์ที่ความจุถึง 240,000 ฟุต หรือ 12,000 TEU ต่อปี
Dato' Seri (Dr.) Michael Tio ประธานกลุ่มเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการของ PKT Logistics Group Sdn Bhd กล่าวว่า "เราเล็งเห็นว่า BKH-ICD จะสร้างประโยชน์มหาศาลให้กับธุรกิจขนส่งสินค้า ธุรกิจส่งออก และบริษัทเดินเรือทั่วภูมิภาค นี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเนื่องจากการค้าชายแดนระหว่างมาเลเซียและไทยพุ่งขึ้นเป็น 7.9 หมื่นล้านริงกิตมาเลเซียในปี 2564 และคาดว่าจะเติบโต 6% ต่อปี จากการสร้างประโยชน์ทางธุรกิจการค้าขนาดใหญ่นี้ BKH-ICD จึงตั้งเป้าที่จะสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมในเมืองบูกิตกายูฮีตัมและพื้นที่โดยรอบผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนกับ NGX"
"BKH-ICD ครอบคลุมพื้นที่ 50 เอเคอร์ซึ่งมีมูลค่าการพัฒนาประมาณ 200 ล้านริงกิตมาเลเซีย เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่ยั่งยืน ประกอบด้วยโครงการทั้งหมด 4 ส่วน ได้แก่ ท่าเรือบก BKH-ICD (เฟส 1) และคลังสินค้า Blackwood Forest (เฟส 2) ซึ่งทั้งสองเฟสอยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 โครงการก่อสร้าง Blackwood Complex (เฟส 3) จะเริ่มดำเนินการในเร็ว ๆ นี้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ขณะที่ศูนย์กลางโลจิสติกส์ได้รับการออกแบบด้วยระบบนิเวศล้ำสมัยที่จะส่งเสริมการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน และยังทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางให้กับคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่แวะเปลี่ยนพาหนะในการเดินทาง สิ่งดังกล่าวสอดคล้องกับพันธกิจของ PKT Logistics Group อย่างเห็นได้ชัดที่ตั้งใจจะพัฒนาศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่ยั่งยืนพร้อมคลังสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการมีส่วนร่วมกับชุมชนรอบตัว"
"เรามีการรองรับท่าเรือบกด้วยคลังสินค้า Blackwood Forest ที่มีพื้นที่จัดเก็บขนาด 215,000 ตารางฟุต ควบคู่ไปกับการเปิดให้บริการห้องรับรองที่ออกแบบอย่างมีรสนิยมและสะดวกสบายสำหรับผู้ทำธุรกิจการเดินเรือ ธุรกิจขนส่งสินค้า และอื่น ๆ"
Tio กล่าวเพิ่มเติมว่า "Blackwood Complex จะมีบริการด้านสถาบันการศึกษา ร้านค้าปลีก พื้นที่ทำงานร่วมกัน โรงยิมและห้องรับรอง สำนักงาน เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และที่จอดรถจำนวนหลายชั้น นอกจากให้บริการแก่ผู้ใช้ท่าเรือบกแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดพักเชิงยุทธศาสตร์สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางข้ามพรมแดน โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์พักผ่อนและนันทนาการที่สะดวกสบาย พร้อมศูนย์อาหาร ร้านสะดวกซื้อ คาเฟ่ และอื่น ๆ"
ในขณะเดียวกัน Razwin Sulairee ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ NGX กล่าวว่าการเป็นหุ้นส่วนกับ PKT Logistics ที่ Delapan มีความได้เปรียบด้านการแข่งขันอย่างมากในการลดความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อนักลงทุนทั้งในปัจจุบันและอนาคต
"การพัฒนานี้เกิดจากความถดถอยทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นหลังจากการระบาดของโรคโควิด-19 และการเสื่อมถอยทางการเมืองมากมายทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านการดำเนินงานและสถานการณ์เหล่านี้ทำให้เรามีข้อได้เปรียบที่ชัดเจนบางประการในการสร้างโซลูชันที่มีคุณค่าสำหรับพันธมิตรระดับโลกและระดับภูมิภาคของเรา"
"ธุรกิจต่าง ๆ ที่ดำเนินการที่เขตเศรษฐกิจพิเศษเดลาปันจะได้รับประโยชน์มากมายในการบรรเทาปัญหาห่วงโซ่อุปทานและโลจิสติกส์ที่เกิดจากการชะงักงันต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อภูมิภาคทางทะเล เช่น ทะเลจีนใต้ ในกรณีนี้ มูลค่าการค้าโลกต่อปีประมาณ 3.37 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐอาจได้รับผลกระทบ"
"ดังนั้นเราจึงนำเสนอเดลาปันเป็นทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์สำหรับความท้าทายด้านซัพพลายเชนที่พันธมิตรของเราต้องเผชิญ ซึ่งเป็นความท้าทายที่จัดการได้ยาก ท่าเรือบกของเราตั้งอยู่ที่ กม. 0.8 ของ North South Expressway ที่ทางแยกของ Asia Highway Network 2 ซึ่งจะเชื่อมคุณกับมาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย อินโดจีน จีน และประเทศอื่น ๆ ได้โดยตรง
"สิ่งนี้ทำให้เดลาปันเป็นโซลูชันที่เร็วที่สุดสำหรับการเข้าถึงตลาดโลกได้อย่างง่ายดายและไร้รอยต่อผ่านการขนส่งทางถนนและเครือข่ายภาคพื้นดิน โดยไม่มีความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นอันเป็นผลมาจากสถานการณ์ในทะเลจีนใต้"
เขากล่าวว่าธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ไม่อาจสูญเสียจากสิ่งที่คาดเดาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว "ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นที่จะจัดหาทางเลือกที่มั่นคงให้กับพันธมิตรของเราเพื่อบรรเทาความสูญเสียจากปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกเขาให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BKH-ICD
ติดต่อเรา :
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ:
PKT Logistics Group Sdn Bhd
Corinne Chieng
หัวหน้าฝ่ายกิจการองค์กรและกลยุทธ์
มือถือ: +60-192223189
อีเมล: [email protected]
Northern Gateway Sdn Bhd
Amy Fadzlan
หัวหน้าผู้เผยแพร่นวัตกรรมขององค์กร
โทร: +60-386852502/03
มือถือ: +60-162054771
อีเมล: [email protected]
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับฝ่ายขาย:
Victor Ch'ng โทร +601-2438 4797 หรืออีเมล [email protected]
Công ty phát hành chịu trách nhiệm cho nội dung của thông báo này
เกี่ยวกับ Northern Gateway Sdn Bhd
เกี่ยวกับ PKT Logistics Group Sdn Bhd
PKT Logistics Group Sdn Bhd เป็นบริษัทที่ให้บริการด้านโลจิสติกส์ที่รับผิดชอบต่อสังคมโดยใช้ทรัพยากรมนุษย์ในท้องถิ่น สร้างคลังสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีส่วนร่วมอย่างเปิดเผยกับชุมชน และสร้างแรงบันดาลใจให้ธุรกิจอื่น ๆ เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อผู้คนและชุมชนผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ดูที่
https://pktgroup.com หรือ Facebook page : https://www.facebook.com/PKTLogisticsGroup
NGUỒN:
PKT Logistics Group Sdn Bhd
DANH MỤC:
Logistics
ĐỌC TRONG:
ĐÃ XUẤT BẢN VÀO:
01 Jun 2023 04:30pm
Thông cáo báo chí trước đây
#Logistics
#Advertising, Marketing & Public Relations
01 June 2023 4:30pm HKT